The Last Dragon Knight ผู้สืบทอดอัศวินมังกรคนสุดท้าย ตอนที่ 1 : เผ่าพันธ์ุจากฟากฟ้า
"ไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไปแล้ว จงส่งกำไลข้อมือนั่นมาซะดีๆ" อัศวินร่างโตสวมเกราะหนาเหมือนคิงคองพูดขึ้น
"เห๊อะ! ไอ้คิงคองอย่างแกอย่าหวังจะได้จับต้องกำไลเลย ถอยทัพของแกกลับไปซะเถอะนะ ถ้าไม่อยากกลายเป็นปุ๋ยให้กับพื้นดินที่พวกแกกำลังเหยียบอยู่น่ะ"
ชายหนุ่มคนพูดพร้อมกับทำหน้ากวนบาทาให้
"แก! แกกล้าว่าฉันเป็นคิงคองเหรอ วันนี้แกได้ตายสมใจอยากแน่" พูดจบเจ้าอัศวินคิงคองนั่นก็ชักดาบแล้ววิ่งตรงใส่ชายหนุ่มคนนั้นทันที
"เดี๋ยวก่อนท่านแม่ทัพ!! คำสั่งของพระราชาได้สั่งเอาไว้ว่าให้จับชายคนนั้นแบบเป็นๆ นะครับ!!" ทหารนายหนึ่งพูดแทรกเข้ามา แต่เจ้าคิงคองดูเหมือนจะไม่ฟังเลย และสุดท้ายเจ้าคิงคองก็ถูกชายคนนั้นใช้ดาบไฟฟันร่างจนแหวกครึ่งตายคาที่
"ทะ...ท่านแม่ทัพ!!" "กึ๋ย~! เกราะหนาขนาดนั้นถูกดาบไฟฟันแค่ครั้งเดียว..." "ไม่ไหว พวกเราสู้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นไม่ไหวหรอก" เหล่าทหารที่เห็นแม่ทัพถูกฟันตายภายในครั้งเดียว ก็รีบทำการถอยทัพหนีกลับไปทันที
"เฮ้อ~ รู้ๆ กันอยู่แล้วว่ากองทัพกระจอกเพียงแค่หยิบมือไม่มีทางเอาชนะ 'เผ่ามังกร' ได้แบบนั้น ยังจะดื้อด้านส่งคนมาทำร้ายพวกเราไปถึงเมื่อไหร่กันน้า"
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหาวปากกว้าง
"คิดว่าฆ่าแม่ทัพจนทำให้ทหารเสียขวัญแล้วเรื่องมันจะจบงั้นเหรอ?" เสียงชายแก่ดังมาจากที่ไหนซักแห่งจนชายหนุ่มเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า และทันใดนั้นเองก็มีสายฟ้าขนาดใหญ่ยักษ์ผ่าลงมาใส่ชายหนุ่มจนร่างแหลกสลาย แต่กำไลข้อมือไม่ได้รับผลความเสียหายใดๆ แล้วมันก็กระเด็นตกลงไปที่แม่น้ำและหายไปอย่างเงียบๆ
ศตวรรษที่ 21 โลกนี้มีเผ่าพันธ์ุอยู่ 2 ประเภท นั่นคือมนุษย์ธรรมดาและเผ่าพันธ์ุจากฟากฟ้า 'แองเจลิกซ์' เมื่อ 70 ปีก่อน จู่ๆ แองเจลิกซ์ก็ปรากฎตัวขึ้นบนท้องฟ้า พวกเขาเป็นผู้คนจากต่างโลก และกว่ามนุษย์จะรู้ตัวนั้น สงครามโลกระหว่างมนุษย์กับแองเจลิกซ์ก็เกิดขึ้น แองเจลิกซ์นั้นแค่มองด้วยตาเปล่าก็ไม่ต่างกับมนุษย์ก็จริง ทว่าทั้งพละกำลังและความเร็วเป็นคนละระดับกับมนุษย์ จนท้ายที่สุดแองเจลิกซ์ก็กลายเป็นฝ่ายชนะสงครามจึงได้ปกครองโลกในปัจจุบัน หลังสงครามจบลงไม่นาน มนุษย์ได้ค้นพบเผ่าพันธ์ุโบราณที่หลับไหลอยู่ใต้โลกมานานแสนนานซึ่งนั่นก็คือ 'เผ่ามังกร' ตามตำราได้ว่าไว้ว่าเผ่ามังกรได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยพระเจ้า แต่ความดุร้ายของเผ่าพันธ์ุนี้สามารถฆ่าพระเจ้าได้ พวกมันจึงถูกกักขังและให้หลับไหลไปตลอดกาล มนุษย์ที่เพิ่งสูญเสียโลกนี้ไปเริ่มมีความหวัง จึงแต่งตั้งให้เผ่ามังกรเป็นชนชั้นสูงสุด แต่ทว่าพวกแองเจลิกซ์รู้ข่าวเข้า จึงได้ส่งกองทัพมาทำลายเผ่ามังกร ถึงตามตำราจะว่าไว้ว่าเผ่ามังกรสามารถฆ่าพระเจ้าได้ก็จริง แต่จำนวนน้อยกว่า จึงโดนกวาดล้างไปจนหมดสิ้น จนมาถึงชายผู้ที่ถูกฟ้าผ่าจนร่างสลายหายไปเมื่อสักครู่นี้...
"นี่...ทำไมถึงมีผู้ชายอยู่ในโรงเรียนได้ล่ะ" "นั่นนักเรียนที่ย้ายมาเมื่อวานไง" "มนุษย์งั้นเหรอ? แถมยังเป็นผู้ชายเนี่ยนะ" กลุ่มนักเรียนหญิงแองเจลิกซ์เกาะกลุ่มพูดคุยกันและหันไปมองเด็กหนุ่มที่กำลังยืนเอาหลังพิงกำแพงอยู่หลังแถวพวกเธอ
"เฮ้อ~ ก็แค่รู้สึกแปลกแยกอยู่เป็นประจำล่ะนะ" เด็กหนุ่มบ่นเสียงพรึมพรำๆ อยู่คนเดียว
ชื่อของผมคือ 'โซกะ ชิโมะมุระ' นักเรียนมัธยมปลายปี 1 ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงเรียนสอนการต่อสู้ของพวกแองเจลิกซ์ ที่นี่เป็นโรงเรียนชั้นเลิศในบรรดาโรงเรียนทั้งหมดที่แองเจลิกซ์สาวเข้าเรียน ที่นี่เป็นที่สภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดเพื่อขัดเกลาศาสตร์การต่อสู้ได้ถูกจัดเตรียมไว้ให้เหล่าแองเจลิกซ์ชั้นเลิศมารวมตัวกัน ตามที่ผมได้รู้มาก็คือพวกแองเจลิกซ์ที่เป็นผู้หญิงจะแข็งแกร่งกว่าผู้ชายหลายเท่า ด้วยเหตุนั้นเอง โรงเรียนแห่งนี้ส่วนใหญ่จึงมีแต่เด็กผู้หญิง ทำไมผมถึงได้มาอยู่กับเหล่าสาวๆ แองเจลิกซ์พวกนี้น่ะเหรอ? นั่นก็เพราะว่าผมดันไปโค่นล้มนักเรียนหญิงของที่นี่ไปคนหนึ่งน่ะสิ พวกแองเจลิกซ์จึงอยากรู้ว่าทำไมผมถึงโค่นล้มนักเรียนพวกเค้าได้ง่ายดายอะไรแบบนั้น จึงโดนจับให้มาเข้าเรียนที่นี่เพื่อศึกษาหาอะไรบางอย่างจากตัวผม เพื่อที่จะไม่ให้ถูกมนุษย์คนอื่นโค่นล้มได้ง่ายๆ อะไรแบบนั้นอีก
"ทุกคนเลือกคู่ที่จะฝึกซ้อมตัวต่อตัวด้วยกันได้รึยังจ๊ะ?" เสียงของอาจารย์ผู้สอนดังขึ้น ผมหันซ้ายหันขวามองกลุ่มนักเรียนหญิงซึ่งดูเหมือนว่าพวกเธอจะได้คู่กันหมดแล้ว ส่วนผมก็ได้แต่ถือดาบไม้แล้วเอามาเกาหลังตัวเองไปพลางๆ เพราะดูยังไงก็ไม่มีใครอยากจะมาเป็นคู่ซ้อมกับผู้ชายที่ดูอ่อนแอแบบนี้หรอก
"คุณคือ 'โซกะ ชิโมะมุระ' มนุษย์ผู้ชายที่โค่นล้มรุ่นพี่ปี 3 ของโรงเรียนเราได้สินะคะ"
โซกะ : "หืม...?" ผมหันหน้าไปตามเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่พูดชื่อผมออกมา
"ถ้าไม่รังเกียจ ฉันจะเป็นคู่ซ้อมให้เองค่ะ"
ผมยืนอึ้งและหน้าแดงอยู่สักพัก เพราะคนที่จะมาเป็นคู่ซ้อมให้กับผมเป็นแองเจลิกซ์สาวเพื่อนร่วมชั้น เธอผมยาวตรงสีดำแบบฮิเมะคัท(ทรงผมเจ้าหญิงญี่ปุ่น) กำลังยืนชี้ดาบไม้มาที่ผม ส่วนโค้งนูนของหน้าอกที่ใหญ่กำลังดี...เอวบอบบางเหมือนจะหักได้...ต้นขาที่ห่อหุ้มไปด้วยกางเกงขาสั้นที่รัดรูป...
โซกะ : "ดีล่ะ! ตรงสเป็กใช้ได้เลย" ผมพูดพร้อมกับมองไปที่เรือนร่างของเธอคนนั้นด้วยสีหน้าหื่นกาม
"อะไรยะ?" เด็กสาวคนนั้นทำตาดุใส่ผม
"กะ...กรุณารอก่อนองค์หญิงมารี!!" นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดแทรกเข้ามา
มารี : "...?"
"องค์หญิงมารีจะไปเป็นคู่ซ้อมให้คนแบบนั่นน่ะ...มันไม่เหมาะสมกับพวกเราแองเจลิกซ์เลยนะคะ"
"ใช่แล้วค่ะ! ไม่เหมาะกับองค์หญิงหรอก หมอนี่เป็นมนุษย์ผู้ชายนะคะ!" คราวนี้สาวผมสั้นวิ่งเข้ามาแจมด้วย
โซกะ : "พูดแบบนี้เสียมารยาทนะ! ฉันน่ะ...ยังไงก็คิดว่าจะกลายเป็นพ่อที่ดีให้ได้นะ!" ผมตอบกลับไปพร้อมกับทำสีหน้าจริงจัง
"คิดว่าพวกเราอยากรู้เหรอ!!" เด็กสาวทั้งสองตะคอกเสียงใส่ผมพร้อมกันแล้ววิ่งยืนอยู่ข้างหลังเด็กสาวคนที่มาขอเป็นคู่ซ้อมให้กับผม รู้สึกว่าจะชื่อ 'มารี' ตามที่สองคนนั่นเรียกอ่านะ
มารี : "ทั้งสองคนช่วยถอยไปก่อนจะได้มั้ย" มารีแกว่งดาบไปทางด้านหลังเพื่อที่จะให้สองคนนั้นเดินถอยหลังห่างออกไป
"ตะ...แต่ว่าองค์หญิงมารี"
"เป็นถึงองค์หญิงของสี่ราชาแองเจลิกซ์ แต่กับมนุษย์ผู้ชายอย่างนี้..."
มารี : "อย่าไร้สาระน่าพวกเธอ!! ถ้าเข้ามายุ่งล่ะก็ ต่อให้พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนสนิทฉันก็ไม่ยกโทษให้หรอกนะ!!"
มารีหันหน้าไปตวาดเสียงจนเพื่อนสนิทสองคนนั้นถึงกับทำหน้าหงอย
"องค์หญิงมารีกับมนุษย์เหรอ?" "เจ้ามนุษย์นั่นตายแน่ๆ" เหล่านักเรียนหญิงในโรงเรียนที่บังเอิญเดินผ่านมาเห็น ก็ต่างพากันพูดคุยกัน บางคนก็ที่กำลังเรียนอยู่บนชั้นเรียนก็ต่างพากันมาดูผ่านหน้าต่าง
มารี : "อาจจะไม่พอดีมือ แต่ช่วยรับคำท้าได้มั้ย?"
โซกะ : "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ขอฝากตัวด้วยนะ"
ช่วงจังหวะที่โซกะพูดจบ มารีก็ได้ตวัดดาบไม้ใส่โซกะแบบไม่ให้ทางนั้นตั้งตัวทัน แต่โซกะเดินถอยหลังไปแค่ก้าวเดียวก็หลบปลายดาบไม้ที่มารีตวัดใส่ได้ในระยะเผ่าขน
"เจ้ามนุษย์นั่น...!?" "หลบดาบไร้เงาขององค์หญิงมารีได้!?" "แค่เดินถอยหลังไปแค่ก้าวเดียวเนี้ยนะ"
เสียงเอะอะเริ่มก่อตัวขึ้น มารีไม่สนใจเสียงพูดคุยพวกนั้น แล้วพุ่งเข้าไปหาโซกะอีกครั้ง แต่การโจมตีครั้งนี้เป็นการเข้าไปโจมตีในระยะประชิด
โซกะ : "โอ๊ะโอ๋~ เกือบไปๆ" โซกะเอนตัวหลบไปทางทิศทางตรงข้ามของการตวัดดาบของมารีในแต่ละครั้ง จนฝ่ายที่โจมตีเริ่มกัดฟันให้ได้ยินเสียงขึ้นมา
"เป็นไปได้ไงเนี่ย!?" "องค์หญิงมารีโจมตีพลาดไปเองรึเปล่า?" "มันจะเป็นอย่างนั้นได้เหรอ?" "หมอนั่นเป็นมนุษย์จริงเหรอ?" สายตาของพวกนักเรียนหญิงทั้งโรงเรียนต่างพากันมองไปที่โซกะที่กำลังหลบการโจมตีของมารีได้ทุกกระบวนท่า แต่ทุกคนก็ยังไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะพวกเธอเชื่อว่ามารีจะต้องเป็นฝ่ายชนะแน่นอน
โซกะ : "ไม่เลวเลยนี่นา"
มารี : "นี่...ทำไมไม่โจมตีฉันกลับมาเลยล่ะ"
โซกะ : "ก็ไม่ได้ดูถูกเธอหรอกนะ แต่วิธีการของฉันน่ะ..." โซกะกำดาบไว้ซะแน่นมือแล้วใช้ดาบไม้แทงตรงไปหามารีอย่างรวดเร็ว
มารี : "ระ...เร็วมาก!?"
'เปรี๊ยง!' มารีใช้ดาบไม้ป้องกันได้ได้ทัน แต่การโจมตีของโซกะรุนแรงมากจนดาบของมารีหักเป็นสองท่อน
โซกะ : "มาได้แค่นี้สินะ ไว้มาเป็นคู่ซ้อมให้อีกนะ"
มารี : "อะ...อืม..."
"ไม่มีทาง...องค์หญิงมารีน่ะ..." "ดาบไม้นั่นคงจะผุพังมาก่อนแล้วแน่ๆ"
เสียงเอะอะของกลุ่มนักเรียนหญิงในโรงเรียนเริ่มดังขึ้น ส่วนมารีก็ได้แต่ยืนมองชายหนุ่มที่เพิ่งจะหักดาบไม้ของเธอกำลังเดินจากไป และเธอก็เหล่ตามองไปที่ดาบไม้ตรงจุดที่หัก และจุดที่ดาบหักนั่นเป็นรอยสีดำเหมือนถูกความร้อนเผาในระยะเวลาอันสั้น
เวลาค่ำคืนก็ได้มาถึง มารีถอดชุดเครื่องนักเรียนออกเพื่อเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำในห้องพักส่วนตัว แต่เธอก็ยังนึกคำพูดของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่พูดออกมาว่า 'ดาบไม้นั่นคงจะผุพังมาก่อนแล้วแน่ๆ' ดังสะท้อนอยู่ในหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มารี : "ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่านั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เฮ้อ...ไม่สดชื้นเอาซะเลย..." มารีทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วเดินออกมาจากห้องอาบน้ำในสภาพเปลือยท่อนบน
"่โซกะจาง~ อ้าม~~~"
โซกะ : "อ้าม~~~" ภาพของเด็กสาวที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ กำลังจะได้เห็นคือหญิงสาวผมบลอนหน้าอกไซส์บิ๊กบึ้มกำลังป้อนขนมเค้กให้กับโซกะที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาหรูหราอย่างสบายใจ ส่วนมารีก็ได้แต่ยื่นนิ่งเงียบและสีหน้าก็ค่อยๆ แดงขึ้นมาเรื่อยๆ
โซกะ : "โย่ว~ ขอรบกวนหน่อยนะ อ้าว...ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ เป็นไข้เหรอ?"
มารี : "กรี๊ดดดดด~~~~!!! หันไปทางอื่นเลยนะโซ!!!" มารีเดินมาจับหัวของโซกะให้หันไปทางอื่น แต่ช่วงจังหวะที่โซกะถูกจับหันหัวไปนั้น มันมีเสียง 'กร๊อบ' ดังออกมาด้วย
5 นาทีผ่านไป...
มารี : "ซะ...โซกับพี่เซร่ามาทำอะไรที่นี่เนี้ย!?" มารีตะคอกเสียงใส่โซกะกับหญิงสาวคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับแต่งชุดเครื่องแบบนักเรียน
โซกะ : "แค่ลองย่องเข้ามาในหอหญิงดูน่ะ แต่ที่หอนี่มันกว้างจนฉันหลงทาง โชคดีที่พี่เซร่ามาเจอเข้าก็เลยเป็นอย่างที่เธอเห็นนี่แหละ"
เซร่า : "โซจังอุตสาห์มาทั้งที จะปล่อยให้ลำบากได้ยังไง ฮิฮิฮิ"
โซกะ : "ขอบคุณมากครับพี่เซร่า"
เซร่า : "แหม่~ เรียกเซร่าเฉยๆ ก็ได้"
มารี : "พวกเธอสองคนหัดเกรงอกเกรงใจเจ้าของห้องหน่อยสิยะ!!"
โซกะ : "เอ๋~ ทำไมถึงใส่ชุดเครื่องแบบล่ะ?"
มารี : "ก็คนของฉันที่ขนสัมภาระยังมาไม่ถึงที่นี่น่ะ ก็เลยจำเป็นต้องใส่ชุดเครื่องแบบนี้ไปก่อนน่ะ..."
เซร่า : "คิกคิกคิก ทั้งสองคนนี่ยังทะเลาะกันไม่เปลี่ยนเลยน้า กี่ปีแล้วนะตอนที่พบกันครั้งสุดท้าย"
โซกะ : "เมื่อ 1 ปี กับอีก 311 วันก่อน" โซกะตอบกลับด้วยสีหน้านิ่งๆ
มารี : "ละเอียดเกินไปแล้วย่ะ! น่าขนลุกจริง!!"
ผู้หญิงคนนี้ชื่อ 'มารี บริเกต์' ผู้กุมอำนาจสูงสุดธิดาสี่ราชาแองเจลิกซ์ ส่วนหญิงสาวคนที่นั่งข้างๆ ผมคือนักเรียนชั้นปี 3 ของโรงเรียนฝึกการต่อสู้ ชื่อ 'เซร่า เซฟาริม' เธอคนนี้คือคนที่ผมโค่นล้มจนกลายเป็นข่าวไปทั่ว หนักสุดคือเธอเองก็เป็นถึงระดับองค์หญิงเหมือนกับมารี เซร่าเป็นธิดาของราชาทั้งสี่แองเจลิกซ์แดนใต้ ส่วนมารีเป็นธิดาของราชาทั้งสี่แองเจลิกซ์แดนเหนือ ที่จริงแล้วพวกเราสามคนเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันครับ
เซร่า : "นี่ๆ ทั้งสองคน" เซร่าพูดแทรกเข้ามา
โซกะ , มารี : "อะไรเหรอ?"
เซร่า : "เมื่อตอนบ่ายเป็นวิชาศิลปะการใช้ดาบสินะ ฉันได้ยินมาว่าเธอสองคนจับคู่ฝึกซ้อมตัวต่อตัวกันสินะ"
โซกะ : "อ่า...ใช่แล้วล่ะ"
เซร่า : "แล้วผลการต่อสู้คือ..."
มารี : "โซกะเป็นฝ่ายชนะน่ะ" มารีพูดขึ้นแล้วหันหน้าหนีโซกะ
เซร่า : "หืม~? โซจังคงไม่ได้เอาจริงเหมือนตอนที่ฉันแพ้สินะ?"
โซกะ : "โทษทีนะเซร่า ในชั่วโมงฝึกดาบวันนี้น่ะ...ฉันไม่ได้ออมมือหรอกนะ"
มารี , เซร่า : "เอ๋...?"
โซกะ : "นานแล้วที่ไม่ได้ประดาบกับทั้งสองคน ฉันเลยไม่อยากจะให้มันจบเร็วนัก ไม่สิ...จะพูดแบบนี้ไปก็..."
คำพูดของโซกะทำให้สีหน้าของมารีแดงขึ้น
มารี : "คะ...คนบ้า! ฉันเองก็ไม่รู้ว่าสู้โซไม่ได้...ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วไม่รู้ว่าจะกี่ครั้ง...ฉะ...ฉันเองก็รู้ว่าแค่ 2 ปียังไงก็ตามเธอไม่ทัน..."
มารีพูดเสียงสั่นๆ เหมือนคนกำลังจะร้องไห้
โซกะ : "มารี หน้าเธอแดงมากเลยนะ เป็นอะไรมากรึเปล่า? แล้วนั่นทำไมถึงหยิบปืนพกออกมาล่ะ?" โซกะพูดขึ้น เพราะมารีในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าเป็นไข้หรือร้องไห้กันแน่
เซร่า : "อุ๊ยตาย~ โซจังนี่ล่ะก็ ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนที่เธอล้มฉันได้ตอนนั้นน่ะ ตัวฉันเองก็มีอาการแบบเดียวกับมารีนะ"
โซกะ : "เย๊ย! ลืมไปซะสนิทเลย!!"
'ปัง!!' มารีเหนี่ยวไกแล้วกระสุนปืนพกก็ได้พุ่งออกจากปากกระบอก เป้าหมายของกระสุนที่กำลังพุ่งไปนั่นคือหน้าผากของโซกะ
โซกะ : "เฮ้ย!!??" โซกะทิ้งตัวลงไปนอนกับพื้นเพื่อหลบวิถีของกระสุน
มารี : "แฮ่กๆๆ ยังไงก็ได้! จะฆ่าซะก็ได้ฉันไม่ถือ!!" มารีพูดไปเหนี่ยวไกปืนไป
โซกะ : "แต่ฉันถือโว้ย!!" โซกะตะโกนเสียงกลับแล้วกระโดดหลบไปที่หลังโซฟา
เซร่า : "อ๊าระ ห้องนี้มีรูเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว" เซร่าพูดขึ้น และเธอก็นั่งกินขนมเค้กแบบไม่สนใจเลยว่ากระสุนจะพุ่งมาที่เธอรึเปล่า
หญิงสาวแองเจลิกซ์จะตกหลุมรักคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง และอยากจะฆ่าคนที่เธอตกหลุมรักซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่าเป็นห่วง แองเจลิกซ์แต่ละดินแดนจะมีวิธีการตกหลุมรักแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีดังต่อไปนี้...
หญิงสาวแองเจลิกซ์แดนเหนือ(มารี) : จะตกหลุมรักได้ก็ต่อเมื่อถูกอีกฝ่ายเอาชนะการประมือกับเธอได้ตลอดทุกครั้ง หญิงสาวแองเจลิกซ์แดนใต้(เซร่า) : จะตกหลุมรักได้ก็ต่อเมื่อถูกอีกฝ่ายทำอะไรมิดีมิร้ายจนแปดเปื้อน หญิงสาวแองเจลิกซ์แดนตะวันออก : จะตกหลุมรักได้ก็ต่อเมื่อถูกอีกฝ่ายเห็นสิ่งที่น่าอายที่สุดของเธอ หญิงสาวแองเจลิกซ์แดนตะวันตก : จะตกหลุมรักได้ก็ต่อเมื่อถูกอีกฝ่ายแย่งชิงจูบแรกไปต่อหน้าผู้คนมากมาย ถ้าหากชายใดทำให้หญิงสาวแองเจลิกซ์เหล่านี้ตกหลุมรักแล้ว ฝ่ายชายจะต้องหนีเอาตัวรอดจากการโจมตีของฝ่ายหญิงจนกว่าพวกเธอจะสงบสติอารม์ลงได้
สองข้อแรกผมทำไปเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์แรกผมกับมารีมักจะชอบฝึกซ้อมดาบกันและผลก็คือผมชนะเธอทุกครั้ง ส่วนเหตุการณ์ที่สองมันเป็นอุบัติเหตุเพราะตอนช่วงนั้นผมกำลังจะไปแช่น้ำร้อนกลางแจ้ง แล้วเซร่ามักจะชอบมาอาบกับผมด้วย และด้วยเหตุนั้นเอง อุบัติเหตุที่ไม่อยากนึกถึงก็เกิดขึ้น ผมเผลอไปเหยียบสบู่แล้วลื่นล้มไปทับตัวเซร่า ตอนนั้นมือซ้ายของผมบีบหน้าอกอันแสนนุ่ม แต่มือขวาของผมอยู่ใต้ผ้าขนหนูตรงหว่างขาและนิ้วกลางก็สอดเข้าไปในร่องอะไรซักอย่าง เพราะอุบัติเหตุตอนนั้นเอง เซร่าก็เกิดติดใจขึ้นมาและก็ได้มาเกาะติดผมมาจนถึงตอนนี้
โซกะ : "นี่คือลักษณะพิเศษของหญิงสาวแองเจลิกซ์แดนเหนือสินะ สายตานี้เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก" สายตาของโซกะจ้องมองไปที่ใบหน้าของมารีที่กำลังปล่อยความรู้สึกอันเร้าร้อนออกมาพร้อมกับยิงปืนใส่ไม่ยั้ง
โซกะ : "ที่นี่ไม่ดีแน่ ต้องย้ายที่กันแล้ว" ผมกระโดดออกจากหน้าต่างห้องของมารีแล้วตรงเข้าไปในป่าข้างหอพักหญิง ส่วนมารีก็กระโดดออกจากห้องแล้วเอาปืนไล่ยิงผมอยู่เหมือนเดิม เว้นแต่เซร่าที่กำลังยืนโบกมือบ๊ายบายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หัดเป็นห่วงเป็นใยบ้างสิแม่คู๊ณ~!
มารี : "นี่แนะๆๆๆ" มารีชักปืนพกออกมาอีกหนึ่งกระบอกแล้วยิงใส่โซกะจนจะหาจังหวะหลบวิถีกระสุนไม่ได้แล้ว
โซกะ : "เผ่าพันธ์ุจากฟากฟ้าที่มองเห็นมนุษย์ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ มาตกหลุมรักฉันซะแล้วงั้นหรือ...!?"
มารี : "มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ฉันแค่อยากฝังกระสุนเข้าไปในกระโหลกของโซเท่านั้นเอง"
โซกะ : "เหตุผลนั่นมันอะไรฟ๊ะ!?"
ปืนพกที่มารีใช้มันน่าจะบรรจุกระสุนได้ไม่เกิน 12 นัด แต่เราโดนเธอไล่ยิงอยู่ตลอดเวลาแบบไม่มีจังหวะรีโหลด(บรรจุกระสุนใหม่)เลย เราจะเอาแต่หนีไปเรื่อยๆ ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้เรารวบรวมสมาธิที่จะโต้กลับไม่ได้แน่ๆ
โซกะ : "ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็...!"
มารี : "อ๊ะ...!?" 'ฟ้าว!' ผมใช้มีดสั้นฟันไปที่เสื้อของมารีขาดสะบั้น ที่ผมทำแบบนี้ไปก็แค่ลองใช้วิธีการที่จะทำให้หญิงสาวแองเจอลิงซ์ตกหลุมรักของแดนตะวันออกดูว่ามันจะขัดแย้งกับของทางนี้รึเปล่า ภาพที่ผมคาดเดาเอาไว้คือมารีที่อยู่ในสภาพที่น่าอายแบบนี้ เธอจะร้องกรี้ดแล้ววิ่งหนีกลับไปที่หอพัก
โซกะ : "หยุดนิ่งแบบนี้...คงจะได้ผลสินะ..."
มารี : "อ๊าง~ สุดยอดไปเลยโซ..." มารีพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะติดใจกับสิ่งที่ผมทำไปเมื่อสักครู่นี้ นี่มันลาดน้ำมันเข้ากองไฟชัดๆ
มารี : "ตัดแค่เสื้อผ้าโดยไม่ทิ้งแผลไว้บนเนื้อสักนิดเดียว"
โซกะ : "อะ...เอ่อ..."
มารี : "สุดยอด!! สุดยอด!! สุดยอด!! สุดยอด!!" มารีทิ้งปืนพกทั้งสองกระบอก แล้วควักเอาปืนกลออกมาจากหว่างขาใต้กระโปรง
โซกะ : "เฮ๊ย!!?? อะไรฟ๊ะ!! นี่เธอเก็บปืนพวกนี้ไว้ตรงไหนเนี๊ย!?"
'ปังๆๆๆๆๆ' ห่ากระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าที่ผมจนเกือบจะหลบไม่พ้น ต้นไม้ในป่าแต่ละต้นถูกห่ากระสุนปืนกลเจาะจนล้มลง ถ้าเป็นแบบนี้เราก็หมดที่กำบังน่ะสิ
มารี : "โซ!! เอาอีก! ทำให้ฉันพอใจมากกว่านี้อีกสิ!!"
โซกะ : "อย่าพูดบ้าๆ เซ่"
มารี : "มัวทำอะไรอยู่ล่ะโซ! ถ้าไม่โต้กลับจะตายเอานะ อ๊ะ...แต่ห้ามตายนะ"
โซกะ : "ใครกันแน่ที่พยายามจะฆ่าฉันน่ะ!!" ต้นไม้ใหญ่ที่ผมใช้เป็นที่กำบังกำลังถูกกระสุนปืนกลของมารีเจาะทะลุมาแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ? จะใช้วิธีที่จะทำให้ตกหลุมรักของแดนไหนที่มันขัดแย้งกับของมารีได้ล่ะ วิธีของแดนใต้เหรอ? ไม่มีทาง...แบบนั้นเราทำไม่ได้ แต่ตัวเลือกมันเหลือแค่ตัวเดียวนี่นะ ให้ตายเถอะ...
ในที่สุดต้นไม้ใหญ่ที่ผมใช้เป็นที่กำบังก็ได้ถูกเจาะทะลุ มารีเดินตรงเข้ามาดู แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของชายที่กำลังถูกเธอเอาปืนไล่ยิงเลย เธอหันกระบอกปืนกลไปทางซ้ายและขวาก็ไม่เจอวี่แววโซกะเลยแม้แต่เงา
มารี : "แฮ่กๆ...หายไปไหนแล้วนะ...แฮ่กๆ"
โซกะ : "อยู่ข้างหลังเธอไงล่ะ"
มารี : "อ๊ะ...!!??"
ช่วงจังหวะที่มารีหันหน้าไปนั้น โซกะก็ได้เลื่อนหน้าเข้ามาจูบเธอทันที
มารี : "อื้อ....!!??" มารีพยายามจะผลักตัวโซกะออกไป แต่โซกะก็ได้สอดลิ้นเข้าไปข้างในจนมารีไม่อาจจะขัดขืนได้อีกต่อไป
โซกะ : "ฟู๊ว~! เท่านี้ก็ใจเย็นลงได้ซะทีนะ" โซกะเลื่อนหน้าออกมาได้สักพัก แล้วก็ถูกมารีผลักจนล้มลงไปนั่งกับพ้นหญ้า
มารี : "อ๊าาาาาาา~~~!! คะ...คะ...คนบ้า!!!" มารีตะคอกเสียงใส่โซกะเสร็จแล้วก็รีบวิ่งตรงดิ่งกลับไปที่หอพักอย่างไม่คิดชีวิต
โซกะ : "อืม...ที่หนีไปคงไม่ใช่ว่าตกหลุมรักฉันมากกว่าเดิมอีกนะ?" โซกะลุกขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นที่ติดตามเสื้อตามกางเกงออก แล้วเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ง่วงจัด
เช้าวันต่อมา ณ ห้องเก็บของเก่าข้างๆ โรงยิมของโรงเรียนสอนกานต่อสู้แองเจลิกซ์ โซกะ : "ฮ้าว~ เมื่อคืนเล่นซะหนักจนเรานอนไม่เต็มอิ่มเลยยัยมารีเนี่ย..." ช่วงที่ผมกำลังพูดพรึมพรำคนเดียวอยู่นั้น แสงที่กำไลข้อมือผมก็ได้มีแสงสีขาวรูปร่างล้ายลูกบอลลอยออกมา แล้วมันก็ลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม
โซกะ : "นะ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกล่ะเนี้ย"
"ในที่สุด...ฉันก็ได้หลุดพ้นจากผนึกนี้ซะที..." เสียงของเด็กผู้หญิงดังออกมาจากลูกบอลกแสงที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้าโซกะจนเจ้าตัวแอบชะงักตกใจออกมาเล็กน้อย
โซกะ : "เอ๋? ผนึกเหรอ?"
"ดิฉันรอคอยเวลานี้มานานแสนนานที่จะได้พบท่านค่ะ" ลูกบอลแสงได้เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นเด็กสาวผมยาวซอยสไลซ์สีเทาและสวมชุดเมด เธอค่อยๆ เดินตรงเข้าหาโซกะทีละก้าว
"ดิฉันชื่อว่า 'ลีเวีย ลีเวียธาน' ค่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดิฉันจะขอติดตามปรนนิบัติท่านค่ะ"
ท่านอัศวินมังกรคนสุดท้าย... โซกะ : "หะ...หา?" หญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันนั้น รู้สึกเหมือนเคยพบเธอมาก่อนเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเอาซะเลย เพราะสิ่งที่ผมรู้สึกได้คือ ที่โรงเรียนแห่งนี้กำลังจะมีปัญหาประหลาดเกิดขึ้น ผมรู้สึกได้แบบนั้น...
——————— To Be Continued ———————
|